ก่อนอื่นใครยังไม่เคยดู หนังเรื่องนี้ สามารถเข้าไปหาดูได้ จะได้เข้าใจเรื่องราวของหนังมากยิ่งขึ้น สำหรับตัวเราดูแล้วได้อะไรจากหนัง The Monkey King 3 บ้าง?
โดยปกติ หนัง The Monkey King ที่ผ่านมาจะเป็น Action Fantasy ดูแล้ว สนุกสนาน แต่ มา The Monkey King 3 นี้ จะออกแนว รัก romantic ซะมากกว่า
พระถังซัมจั๋ง ได้หลุดเข้าไปในเมืองสตรี ที่มีแต่ผู้หญิง และ เจ้าเมืองที่เป็นราชินี เป็นนางเอกของเรื่อง ได้พบกัน ตอนแรก คือ ราชินีขี่กวางสีขาว เหมือนเจอกันครั้งแรก ก็ มีความประทับใจในตัว พระถังซัมจั๋ง ทันที คือ นางบอกว่ามีแววตา ที่อ่อนโยน และในช่วงกลางๆ เรื่อง เป็นช่วง ที่ดูแล้ว อาจจะรู้สึก ไม่สนุก แต่หนังทำให้ คนดู ได้อิน กับความรัก ที่ทั้งสองมีให้ต่อกัน เช่น ตอนที่เขียน หนังสือ ที่เป็นเพลง ไปด้วยกัน เขียนข้ามภูเขา กันไปเลยทีเดียว
ซึ่งภาคนี้ เราดูแล้ว เรามีความรู้สึกว่า คนสร้างหนัง ต้องการให้เห็นว่า เมือเกิดความรัก ความผูกผัน กับใครสักคนแล้ว มัน ยากที่จะทิ้งเธอไป หรือ ทิ้งเขาไป โดยให้พระถังซัมจั๋ง เป็นตัวแทน ของความรักในครั้งนี้
แล้ว ดูว่า ระหว่างหน้าที่ ที่ต้องไปอัญเชิญ พระไตรปิฎก กับความรักของตัวเอง พระถังซัมจั๋ง จะเลือกอะไรกัน ?
มาถึงตอนที่พระถังซัมจั๋ง เหมือนจะทำใจ ไปจากนางไม่ได้ ในตอนที่นางยังนอนอยู่ที่เตียง ยังไม่ฟื้นขี้นมา และ เสื้อจีวรของ พระถังซัมจั๋ง ก็หลุดออกมาเอง ทั้งๆ ที่ ลิงหงอคง พยายามใส่กลับเข้าไปให้ จีวรก็หลุดออกมาอีก แสดงให้เห็นถึงใจที่ไม่สงบ ยังไม่สามารถละทิ้งความรักของตัวเองได้
ท่านใด ที่กำลังมีความรัก ก็คงอินกับตอนนี้มาก และ เข้าใจพระถังซัมจั๋ง เป็นอย่างดี
ส่วนลิงหงอคง ก็บอกให้ พระถังซัมจั๋ง ไปจากนางซะ โดยที่ให้เหตุผลว่า เวลาจะช่วยเยียวยานางได้เอง ซึ่งมีคำพูดที่ พระถังซัมจั๋ง พูดออกไป เป็นคำพูดที่เรา อินมาก คือ ถ้าเวลาเยียวยาทุกอย่างในโลกได้ โลกนี้ก็คงไม่มีความทุกข์
คือ เราฟังแล้ว ในห้วงเวลา ที่อยู่กับความยึดติด ยึดมั่นอะไรอยู่ มันยากแสนยากจริงๆ ที่จะตัดขาดสิ่งนั้นไปได้
เมื่อราชินี ได้ฟื้นขึ้นมา และ บอกว่า เธอ ฝันเห็น พระถังซัมจั๋ง ได้อยู่กับเธอไปจนแก่ และ มีผมขึ้นมา แต่ หน้าของ พระถังซัมจั๋ง ไม่มีความสุขเลย ราชินีพูดแบบนี้ ก็ทำให้เราซาบซึ้งกับความรัก ที่เธอ มีให้ คือ เธอเหมือนจะไม่ครอบครองคนที่เธอรักไว้กับเธอแล้ว
เพราะ เธอเห็นว่า พระถังซัมจั๋ง ไม่ได้มีความสุข จากการละทิ้งหน้าที่ที่สำคัญ เพื่อมาอยู่กับเธอ
และในช่วงเวลาเดียวกัน ที่เทพน้ำ ที่ได้หลงรักกับ ราชครูมาเป็นเวลา 20 ปี รอคอยราชครู ที่ต้องทำหน้าที่ดูแลราชินี ไม่ยอมไปกับเทพน้ำ เกิดโมโหมาก เป็นฉากที่ทำ CG ได้สุดยอด กลับมาดูแล้วตื่นตาตื่นใจอีกครั้ง ประมาณ 15 นาที จากที่ได้ดูแค่หนังรัก ซึ้งๆ เป็นเวลานาน
ซึ่งในเรื่อง ก็มี CG อยู่อีกตอนนึง คือตอน แย่งชิงกระดาษที่บอกถึงวิธีหนีออกจากเมืองแม่ม่าย โดยทำการแย่งชิงจากแมงป่องยักษ์ 2 ตัว ก็ทำได้เนียน และมีจินตานาการสูงดี คือ ตัวหนังสือตกไปในน้ำแล้ว พระถังซัมจั๋ง ยังกระโดดลงน้ำ เพื่อไปเก็บตัวหนังสือกลับมาใส่กระดาษได้อีก แล้วก็ทำให้พระถังซัมจั๋ง ตั้งท้อง เพราะดื่มน้ำในสระนั้นเข้าไป เรื่องดราม่าก็เกิดขึ้นทันที ว่า พระถังซัมจั๋ง จะทำแท้งลูกในท้องตัวเองหรือไม่? ไป ลองติดตามดูกัน
หลังจากที่เทพน้ำมาบุกเมืองแม่ม่าย ก็ทำให้ ทุกคนตกไปอยู่ในน้ำ เกือบไม่รอด ตอนนี้ พระถังซัมจั๋ง ก็คงเห็นทุกข์ อย่างแจ่มแจ้ง และตระหนัก ในหน้าที่ของตัวเอง อย่างชัดแจ้ง ก็นึกถึงองค์ยูไล เสด็จมา ทำให้ทุกคนลอยขึ้น รอดพ้นจากความตายได้
สรุปว่า หนัง The Monkey King 3 ไม่ได้เน้น Action Fantasy มากนัก แต่เน้นธรรมะ ขั้นสูงมาก คือ เสียสละความรัก ของตัวเอง ความรักในครอบครัว ความสุขส่วนตน เพื่อภาระหน้าที่อันยิ่งใหญ่ ที่จะฉุดช่วยสรรพสัตว์บนโลกนี้
โดยให้ พระถังซัมจั๋ง ได้เจอกับความรัก และ เหมือนจะติดบ่วงนั้นไปด้วย แต่แล้ว ท้ายสุด ความเมตตา หรือ ความรักที่ยิ่งใหญ่กว่า ต่อมวลมนุษย์โลก ทำให้พระถังซัมจั๋ง สละความรักที่มีให้กับราชินี ไปทำหน้าที่ที่สำคัญในการอัญเชิญพระไตรปิฎกของตัวเองต่อไปได้
สำหรับส่วนตัว เราเอง ก็ไม่แน่ใจว่า เรายังมัวหลงอยู่ในความรัก ของตัวเอง ครอบครัวตัวเอง จนลืมคิดไปว่า เราเองก็มีหน้าที่บางอย่างที่ต้องทำหรือไม่? เพื่อนๆ มีความคิดเห็นกันอย่างไร ดูแล้ว รู้สึกอย่างไรบ้าง มาเล่าให้ฟังกันบ้างนะ
ดูตัวอย่างหนังได้ที่